Chlorophyll คลอโรฟิลล์คืออะไร?คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
คือ
คลอโรพลาสเม็ดเล็กๆ มีสีเขียว ซึ่งอยู่ในเซลล์พืช
โดยเป็นส่วนหนึ่งของพืชที่เกิดจากกระบวนการทำอาหารของพืชหลังจากได้รับแสงอาทิตย์
โดยสูตรโครงสร้างของคลอโรฟิลล์จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสูตรโครงสร้างของสารประกอบ
Heme ที่เป็นโครงสร้างหลักของเม็ดเลือดแดงของมนุษย์อย่างมาก
ซึ่งผู้ค้นพบสารนี้เป็นคนแรกก็ได้แก่นักวิทยาศาสตร์ชื่อ ฮานส์ ฟิชเชอร์ (Hans
Fischer) เชื่อว่าหากร่างกายของเราได้รับคลอโรฟิลล์เข้าไปก็จะไปเป็นสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกาย
โดยเฉพาะเมื่อเกิดความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ในภาวะโลหิตจาง เป็นต้น
ซึ่งโดยปกติแล้วในร่างกายของเราจะมีการสร้างและทำลายเซลล์มากกว่า 2.5 ล้านเซลล์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ร่างกายทำงานหนัก
เม็ดเลือดแดงในร่างกายก็จะถูกทำลายมากขึ้นตามไปด้วย และร่างกายของเราก็ต้องมีการสร้างขึ้นมาทดแทนในจำนวนเท่าๆกัน
ตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายของเรามีความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง
สาเหตุอาจจะมาจากการขาดสารตั้งต้นอย่างคลอโรฟิลล์
เมื่อปล่อยให้มีความบกพร่องเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติตามมา
เพราะเม็ดเลือดแดงถือเป็นระบบขนส่งอาหารที่สำคัญอย่างมากในร่างกาย
แต่ก็มีข้อโต้แย้งออกมาว่าสารสกัดจากคลอโรฟิลล์นั้นไม่สามารถนำไปใช้สร้างเม็ดเลือดแดงได้
เนื่องจากมันมีองค์ประกอบของโครงสร้างและหน้าที่แตกต่างจากเม็ดเลือดแดงอย่างสิ้นเชิง
เพราะหน้าที่หลักของคอลโรฟิลล์นั้นช่วยในการสังเคราะห์แสงของพืชเท่านั้น
คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) สารคลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในพืชจะแบ่งออกเป็นประเภทที่ละลายในน้ำ
และอีกประเภทที่ละลายในไขมัน
ซึ่งในส่วนของประเภทที่ละลายในไขมันนั้นทางองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นไม่รับรองให้รับประทาน
แต่ส่วนที่เป็นประเภทที่ละลายในน้ำนั้นสามารถรับประทานได้
แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยกำหนดให้รับประทานได้ไม่เกิน 100
มิลลิกรัมต่อวัน เพราะถ้าหากเกินกว่านั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
การรับประทานสารคลอโรฟิลล์ในปริมาณที่มากเกินไป ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือในสีผสมอาหาร
อาจจะทำให้สีของปัสสาวะหรืออุจจาระเปลี่ยนเป็นสีเขียว
และอาจจะทำให้เกิดท้องเสียได้
แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีรายงานพบว่าเกิดการแพ้สารคลอโรฟิลล์
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดนั้น
โดยหลักการคือสิ่งที่เราต้องรับประทานเสริมเมื่อร่างกายขาดสารอาหารประเภทนั้น
แต่ถ้าร่างกายของเราไม่ได้ขาดสารอาหารอะไร
คุณก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แค่รับประทานอาหารให้ครบ 5
หมู่ก็ถือว่าเพียงพอต่อร่างกายแล้ว
เพราะถ้าหากร่างกายได้สารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินกว่าปกติ
ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียหรือเป็นโทษต่อร่างกายได้ ดังนั้น
ถ้าในชีวิตประจำวันคุณรับประทานอาหารประเภทผักหรือผลไม้ที่มีสีเขียวอย่างเพียงพออยู่แล้ว
คุณก็ไม่จำเป็นที่ต้องรับประทานคลอโรฟิลล์เสริมอาหารแต่อย่างใด
การรับประทานคลอโรฟิลล์เสริมอาหารนั้น
ในผลงานวิจัยทางการแพทย์ทางด้านสารอาหารในต่างประเทศ ก็มีผลงานวิจัยออกมาทั้งที่เป็นด้านบวกและด้านลบ
ก็พอจะคาดเดาได้ว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อย่างเดียวหากเรารับประทานแบบไม่ถูกต้องหรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป
ดังนั้นก่อนการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคลอโรฟิลล์คุณอ่านคำเตือนข้างกล่องก่อนรับประทานและเราก็ต้องรู้ว่าร่างกายของเราสารอาหารประเภทนี้หรือไม่
ในเรื่องนี้นักวิชาการส่วนใหญ่ยังเห็นว่าการรับประทานอาหารเสริมคลอโรฟิลล์นั้นเป็นการสิ้นเปลือง
และนำแนะว่าควรหันมารับประทานผักสีเขียวให้มากขึ้น เพราะเป็นแหล่งของคลอโรฟิลล์
จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าและไม่สิ้นเปลืองเงินมาก
สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคลอโรฟิลล์ผง ใช้ชงกับน้ำดื่มหรือที่เรียกกันว่า
น้ำคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีการอวดอ้างสรรพคุณไว้มากมาย ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณกันให้ดี
เพราะประโยชน์หลายข้อยังขาดหลักฐานการสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ
ซึ่งคลอโรฟิล์เสริมอาหารที่อ้างว่าเป็นสารจากธรรมชาตินั้น
ความจริงแล้วในกระบวนการผลิตนั้นคลอโรฟิลล์จะถูกสกัดและทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่นๆ
จนเป็นสารใหม่ขึ้นมา
ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์
เชื่อช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
เชื่อว่ามีส่วนช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เพิ่มความกระปรี่กระเปร่า
ช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตา ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
ช่วยลดอาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด แพ้อากาศ ประโยชน์คลอโรฟิลล์
ช่วยเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดแดงให้สมดุล ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ช่วยกำจัดสารพิษภายในร่างกาย มีส่วนช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ
มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และไมเกรน
ช่วยลดปัญหาการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตัน หรือเส้นเลือดขอด ช่วยลดปัญหากลิ่นตัว
หรือกลิ่นที่เกิดจากอวัยวะภายในร่างกาย คลอโรฟิลล์ คลอโรฟิลล์ประโยชน์ใช้เป็นยาดับกลิ่นปาก
(เห็นผลน้อยมาก) ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้
ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ มีส่วนช่วยบรรเทาและรักษาโรคท้องผูก
ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ ช่วยทำความสะอาดบาดแผลให้สะอาดได้ดีกว่าสารชนิดอื่น มีส่วนช่วยป้องกันโรคตับอักเสบ
และไตวาย มีส่วนช่วยฟืนฟูการทำงานของตับ มีฤทธิ์ในการต้านการติดเชื้อต่างๆ
(แต่มีประสิทธิภาพน้อยมากๆ) ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ใช้รักษาแผลและช่วยการสมานบาดแผล ให้แผลรายกว่าปกติ ช่วยดับกลิ่นเหม็นของแผล
ช่วยลดอาการเป็นพิษหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิดได้







